ทรัพยากรธรรมชาติอย่าง “น้ำมัน” ที่อยู่ใต้ผิวโลกถูกขุดขึ้นมาใช้เป็นเวลากว่าร้อยปีมาแล้วซึ่งแน่นอนว่าน้ำมันนั้นย่อมมีปริมาณจำกัดและในอนาคตหากจะบอกว่าคงจะหมดไปจากโลกก็คงไม่เป็นไปได้แน่นอน โดยเฉพาะประเทศในแถบตะวันออกกลางซึ่งถึงแม้ว่าจะมีภูมิประเทศที่แห้งแล้งกันดารซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะดำรงชีพ แต่บริเวณใต้ดินกลับมีปริมาณของแหล่งน้ำมันธรรมชิอยู่อย่างมหาศาล นั่งจึงทำให้ประเทศในแถบนี้มีความมั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในโลกด้วยการส่งออกน้ำมันไปขายให้กับประเทศต่างๆ แต่ในเมื่อน้ำมันกำลังลดลงไปทุกที ในช่วงหลายปีหลังเราจึงมักเห็นการวางแผนโครงการของประเทศในแถวะวันออกกลางเพื่อรองรับวิกฤติน้ำมันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

อย่างล่าสุดประเทศซาอุดิอาระเบีย ประเทศยักษ์ใหญ่ในแถบภูมิภาคนี้ก็ได้เปิดตัวโครงการสร้างเมืองใหม่ที่มีชื่อว่า NEOM ซึ่งมีขนาดของเนื้อที่โดยประมาณ 10,230 ตารางไมล์ ใหญ่กว่านครนิวยอร์ก ของสหรัฐอเมริกามากถึง 33 เท่า และภายในเมืองจะเต็มไปด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงทั้งสิ้น หากเรียกว่าเป็นเมืองแห่งอนาคตก็คงไม่ผิดนัก โดยตัวเลขโครงการสร้าง NEOM นั้นมีการคาดการณ์กันว่าทุ่มเงินลงทุนไปกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ หรือแปลงเป็นเงินไทยคือ 17 ล้านล้านบาท เลยทีเดียว โดยรัฐบาลซาอุฯ ต้องการให้การสร้างเมืองใหม่อย่าง NEOM ให้เสร็จโดยเร็วที่สุดซึ่งคาดการณ์กันว่าเมืองนี้น่าจะเสร็จอย่างสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2025

โดยเม็ดเงินที่จะถูกนำมาใช้เพื่อการลงทุนนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน เช่นเดียวกับโครงการใหญ่ๆของประเทศอื่นๆ คือ 1. มาจากเงินอุดหนุนของรัฐบาลซาอุฯ และ 2. เงินลงทุนที่มาจากภาคเอกชน เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (Mohammed bin Salman) ซึ่งในขณะนี้ดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย ทรงประกาศว่า NEOM นั้นจะเป็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะเพื่อทดแทนการขาดหายไปของปริมาณน้ำมัน โดยนอกจากการเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในโลกแล้ว ที่นี่ยังถูกสร้างขึ้นโดยการใช้แนวคิดพลังงานทดแทนให้มากที่สุดอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศใกล้เคียงอย่างจอร์แดนและอียิปต์อีกต่างหาก

จุดประสงค์หลักๆของโครงการ NEOM นั้นจะสร้างขึ้นเพื่อการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศในรูปแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะกับเรื่องของพลังงานทดแทน การใช้เทคโนโลยีชีวภาพ รวมทั้งธุรกิจทางด้านอาหารและความบันเทิงอีกด้วย โดยมีการคาดการณ์กันว่าหากโครงการ NEOM ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ได้เมื่อไหร่ก็จะทำให้ GDP ของประเทศ ทะยานขึ้นไปมากกว่า 1 แสนล้านเหรียญดอลลาร์ในปี 2030 คือในอีก 5ปี ภายหลังจากที่โครงการสำเร็จแล้ว ซึ่งนอกจากซาอุดิอาระเบียแล้วประเทศอื่นๆในแถบนี้ก็เริ่มมีการทำโครงการเพื่อทดแทนการพึ่งพาการส่งออกน้ำมันอยู่อีกหลายประเทศเช่นกัน

ซาอุดิอาระเบีย กับแผนการเนรมิตเมืองใหม่เพื่อเศรษฐกิจในอนาคต