ปัจจัยสะท้อน เศรษฐกิจโลก อยู่ในความเสี่ยง

สงครามการค้า ระหว่างสหรัฐและจีนระลอกใหม่กำลังเขย่าเศรษฐกิจโลกอยู่ในขณะนี้ เศรษฐกิจของสหรัฐยังคงแข็งแกร่งโดยเห็นได้จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เติบโตต่อเนื่องมานานกว่าทศวรรษ แม้ว่าการลงทุนทางธุรกิจจะลดลง พร้อมกับภาคการผลิตชะลอตัวก็ตาม ภายหลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเข้ารับตำแหน่ง พบว่ามีกระแสตอบรับในเชิงบวก เช่น การจ่ายเงินเดือนพนักงานเพิ่มขึ้น ตลาดหุ้นพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ส่วนอัตราการว่างงานอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี อย่างไรก็ดี ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกเกิดขึ้นหลายระลอกในปีนี้ เป็นผลจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าของสหรัฐกับจีน รวมถึงความเติบโตทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำลงทั้งเยอรมนีและจีน ส่อเค้าว่าเศรษฐกิจโลกตกอยู่ในความเสี่ยง ทำให้ต้องจับตาปัจจัยลบที่เพิ่มความเสี่ยงดังต่อไปนี้

สิ่งที่เห็นได้ว่า เศรษฐกิจโลกตกอยู่ในความเสี่ยง

1.การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง กระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐอย่างมากในภาวะที่การลงทุนทางธุรกิจชะลอตัว แม้ว่าคนอเมริกันยังคงใช้จ่ายไปกับรถยนต์ เสื้อผ้า และกาแฟทุกวัน ขณะที่ยอดขายร้านค้าปลีก ร้านอาหาร และธุรกิจออนไลน์ยังคงเติบโตแข็งแกร่งมาตลอดหลายเดือน แต่เศรษฐกิจสหรัฐก็ยังไม่น่าวางใจ มีแนวโน้มจะเกิดความตกต่ำในอนาคต ด้านผู้บริโภคเริ่มกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจอาจถดถอย จึงระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นและชะลอการซื้อของราคาแพงไว้ก่อน

2.สหรัฐขัดแย้งกับจีนมากขึ้น ผู้นำสหรัฐกลับมาเปิดศึกทำสงครามการค้ากับจีนระลอกใหม่ เกษตรกรจีนตกที่นั่งลำบาก กังวลว่าได้รับผลกระทบจากภาษีตอบโต้ของรัฐบาลจีน เพราะไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรต่อไป จึงตัดสินใจชะลอการลงทุนทางธุรกิจในสหรัฐ อาจดึงเกมชะลอการลงทุนต่อไปอีกระยะหนึ่ง รัฐบาลสหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนที่อัตรา 10% ในเดือนกันยายนนี้ มีผลกระทบต่อสินค้ากีฬาและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากจีน ส่วนจีนจะใช้มาตรการตอบโต้ที่จำเป็น ทำให้นักวิเคราะห์ของสหรัฐไม่คาดหวังว่าสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงการค้าได้ก่อนการเลือกตั้งในปี 2563 สงครามการค้าจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจหนักหน่วงยิ่งขึ้น

3.เศรษฐกิจเยอรมนีถดถอยเต็มรูปแบบ หลังการชะลอตัวต่อเนื่องในไตรมาสที่สอง เยอรมนีนับเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ถือว่าเศรษฐกิจถดถอยเต็มรูปแบบ มีโอกาสฉุดเศรษฐกิจสหรัฐตกต่ำไปด้วย กองทุนการเงินระหว่างประเทศปรับลดคาดการณ์การเติบโตทั่วโลกในปีนี้อยู่ที่ 3.2% เรียกว่าอัตราการขยายตัวตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 พร้อมกับปรับลดคาดการณ์ปีหน้าเป็น 3.5% หากข้อพิพาททางการค้ารุนแรงขึ้น อัตราการขยายตัวจะลดลงกว่าครึ่ง ธนาคารกลางทั่วโลกได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เพื่อป้องกันการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ธนาคารกลาง 3 แห่งคือ อินเดีย นิวซีแลนด์และไทย ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพราะกังวลเรื่องความไม่แน่นอนทางการค้าและเศรษฐกิจมากกว่าเดิม

4.อัตราเงินเฟ้อต่ำเกินไป ธนาคารกลางพิจารณาว่าอัตราเงินเฟ้อต่ำในสหรัฐและทั่วโลกเป็นอันตรายว่า จะเกิดภาวะเงินฝืดเหมือนกับญี่ปุ่นที่ตกอยู่ในภาวะเงินฝืดนานกว่า 20 ปีแล้ว แม้จะเป็นเรื่องน่ากังวล แต่ดีกับผู้บริโภคตรงที่การชะลอตัวทางเศรษฐกิจในต่างประเทศอาจทำให้ราคาพลังงานถูกลง

5.การตัดสินใจของอังกฤษที่จะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลงอาจทำให้เศรษฐกิจของอังกฤษชะลอตัว ซึ่งจะเร่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเร็วขึ้นอีก

สภาพเศรษฐกิจโลก เป็นเรื่องที่ต้องคอยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและเตรียมรับมือความเสี่ยงต่าง ๆ ให้ดี เพื่อให้ธุรกิจสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้ โดยได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

สิ่งที่เห็นได้ว่า เศรษฐกิจโลกตกอยู่ในความเสี่ยง

ปัจจัยสะท้อน เศรษฐกิจโลก อยู่ในความเสี่ยง