โลกทุกวันนี้โยงใยเชื่อมถึงกันหมด ภาพรวมเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการส่งออก ไม่ว่าจะลงทุนทำอะไรต้องมองทิศทางของเศรษฐกิจโลกไว้ก่อน ถ้าโลกเกิดวิกฤต ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของไทยก็เจ็บหนักตามไปด้วย ถ้าถามถึงความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่จะมีผลกระทบต่อไทยในเร็ว ๆ นี้ คงหนีไม่พ้นปัญหาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ต้องดูว่าจะออกหัวออกก้อยอย่างไร และจะกระทบต่อไทยอย่างไรบ้าง การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมีผลต่อนักลงทุนแน่นอน สุดท้ายเป็นภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจในยุโรปที่จะมีผลต่อการส่งออกของไทยหลายด้าน ซึ่งเราจะประมาทไม่ได้

เพราะเหตุใด เศรษฐกิจถึงแย่ลง

ความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกทำให้ไทยขาดรายได้หลัก ยิ่งในช่วงครึ่งปีหลังเป็นฤดูมรสุมที่กระหน่ำภาคการท่องเที่ยวให้ซบเซา ไม่ได้น้ำได้เนื้อเท่าไร มองจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในช่วงครึ่งปีหลังเห็นว่า ตลาดส่งออกในต่างประเทศเริ่มพึ่งพาได้ยาก ธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศกำลังทยอยล้มละลาย คงเหลือแต่รายใหญ่ที่มีการลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้น เรียกว่าฮึดสู้เพื่อให้อยู่รอด แต่ความกังวลทางการค้าระหว่างยักษ์ใหญ่จีนและสหรัฐอาจส่งผลร้ายฉุดเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ระดับเงินเฟ้อปรับสูงขึ้น บวกกับค่าเงินบาทไทยยังคงมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้น ผู้ส่งออกเดือดร้อนหนักเพราะขายสินค้าได้กำไรลดลง

ก่อนหน้านี้ไม่นานกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือ จี 20 จัดการประชุมในอาร์เจนตินา ออกโรงเตือนภาวะ เศรษฐกิจ กำลังเผชิญความเสี่ยงเนื่องจากความตึงเครียดด้านการค้าและการเมือง แม้ว่ายังเห็นความเติบโตที่แข็งแกร่ง แต่ปัญหากำลังระดมเข้ามาทุกทิศทาง การเติบโตที่ไม่เท่าเทียมกันมีแต่จะทำให้ระบบเศรษฐกิจโลกตึงเครียด กระตุ้นให้สงครามการค้ารุนแรงมากขึ้น

จริงอยู่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกโดยรวมเติบโตขึ้น แต่ทิศทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศกลับสวนทางกัน ปัญหาหนี้สินหมักหมมของประเทศต่าง ๆ ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจโลกเปราะบาง สร้างความตื่นตระหนกให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมทั่วโลก จากวิกฤตต้มยำกุ้งและวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่ลุกลามยืดเยื้อขยายตัวเป็นวงกว้าง เป็นบทเรียนที่น่าหวั่นวิตกหากจะย้อนกลับมาเกิดซ้ำอีก เป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้
ความห่วงใยเศรษฐกิจโลกไม่ใช่ปัจจัยลบอย่างเดียว ยังส่อเค้าวิกฤตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย และแม้แต่ไทยเราเองยังมีภาวะเศรษฐกิจแบบที่เรียกว่า วิกฤตต้มกบ ที่เป็นภัยเงียบจากการที่เศรษฐกิจซบเซาต่อเนื่องมาพักใหญ่แล้ว ธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพทยอยกันเจ๊งเพราะขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ บางคนกระโดดออกมาก่อน ขายเทโละกิจการเก็บเงินรองรับไว้อย่างปลอดภัย แต่หลายคนยังนิ่งนอนใจไม่รู้ตัว กว่าจะมารู้อีกทีคงจะสายเสียแล้ว

มองจากคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จากธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เห็นว่าในช่วงครึ่งปีหลังหากทิศทางเศรษฐกิจไทยไม่กระเตื้องขึ้น แนะนำว่าถ้ามีเงินเย็นสักก้อน น่าจะนำไปลงทุนกับกองทุนที่มั่นคงและเป็นแบบกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงจะมีโอกาสได้กินกำไร ตอบโจทย์สภาวะตลาดซบเซาในปัจจุบันได้ดีกว่า

ค้าขายไม่ได้กำไร

เศรษฐกิจโลกเปราะบาง ไทยต้องระวังกลับลำให้ทัน