วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เราอาจต้องเผชิญในปี 2566

แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาโลกจะเผชิญหน้ากับปัญหาวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิดที่ทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง แต่หลังจากผ่านพ้นปัญหาจากโควิดมาแล้ว หลายคนคิดว่าโลกคงจะหลุดพ้นจากความซบเซาทางเศรษฐกิจเสียที แต่ความจริงแล้วกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม เพราะยังคงมีวิกฤตเศรษฐกิจอีกมากที่มีโอกาสเกิดขึ้นในปี 2566 นี้ ซึ่งทุกคนควรเฝ้าระวังเพื่อที่จะได้สามารถวางแผนการเงินได้อย่างรัดกุม โดยเราจะมาสรุปสถานการณ์ที่น่าสนใจเอาไว้ในบทความนี้

  1. ความรุนแรงของสงครามรัสเซีย-ยูเครน

สงครามด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ดำเนินต่อเนื่องยาวนานนับปี แถมยังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ถึงจะผ่านจุดที่ตึงเครียดที่สุดมาแล้ว แต่ยังไม่มีท่าทีว่าจะสามารถเจรจาสงบศึกกันได้ หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าสถานการณ์จะซับซ้อนขึ้นไปอีกในอนาคตจากการแทรกแซงของประเทศมหาอำนาจอย่างยุโรปและอเมริกา ส่วนทางด้านประเทศจีน แม้จะมีการออกมาเสนอแผนสันติภาพ 12 ข้อเพื่อพยายามลดข้อพิพาท แต่กลับไม่ได้รับการยอมรับในระดับสากล สิ่งนี้อาจส่งผลให้จีนเลือกหนุนหลังรัสเซียในการสงครามแทน 

  1. เงินเฟ้ออย่างรุนแรง

เงินเฟ้อคือปัญหาข้าวยากหมากแพงที่มักกระทบคนธรรมดาหลายฝ่าย ซึ่งสาเหตุหลักของเงินเฟ้อที่โลกของเรากำลังเผชิญอยู่นี้หลัก ๆ มาจากโควิด ที่ทำให้ภาคการผลิตทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และโรงงานโลกอย่างจีนก็มาหยุดชะงัก ทำให้ไม่สามารถผลิตสินและส่งออกสินค้าได้เต็มกำลัง รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนแรงงานจากโรคระบาด สิ่งนี้ต่างส่งผลร่วมกันให้สินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ มีราคาพุ่งสูงขึ้น

  1. เศรษฐกิจถดถอยในหลายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกาพยายามอย่างยิ่งที่จะแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ แต่กลับโดนผลจากการต่อสู้กับเงินเฟ้อเล่นงานเสียเอง เพราะธนาคารกลางมีการเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายอย่างรวดเร็ว จนอาจทำให้เศรษฐกิจซบเซาได้ในปีนี้ ทางด้านยุโรปมีปัญหาสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เผชิญหน้ากับปัญหาต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น จึงทำให้มีรายจ่ายออกนอกประเทศมากขึ้น แถมสงครามยังทำให้ห่วงโซ่การผลิตติดขัดหรือหยุดชะงัก จนส่งผลต่อต้นทุนอาหารทั่วโลก

  1. การผิดนัดชำระหนี้ของตลาดเกิดใหม่

ตลาดเกิดใหม่กำลังเป็นที่สนใจของบรรดาเหล่านักลงทุนทั่วโลก เพราะเป็นตลาดที่มีโอกาสการเติบโตสูง แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีความเสี่ยงที่ประเทศเหล่านี้จะผิดนัดชำระหนี้เพราะปัญหาเรื่องปริมาณเงินสำรองระหว่างประเทศไม่เพียงพอ เมื่อเจอกับวิกฤตราคาพลังงานและปัญหาความซบเซาของธุรกิจการท่องเที่ยว ทำให้นักลงทุนถอนทุนกลับกระทันหัน จึงทำให้ขาดดุลและผิดนัดชำระหนี้ในที่สุด เช่น การผิดนัดชำระหนี้ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนาม

จะเห็นว่ายังมีวิกฤตการณ์ทางการเงินอีกมากที่มีโอกาสจะอุบัติขึ้นในปี 2566 นี้ ในฐานะคนธรรมดา สิ่งที่เราทำได้คือการติดตามสถานการณ์ด้านต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ลงทุนอย่างรอบคอบและมีสติ รวมทั้งพยายามรัดเข็มขัด ใช้เงินอย่างมีสติบนสถานการณ์ของความไม่แน่นอน เพียงเท่านี้คุณและครอบครัวจะสามารถฝ่าวิกฤตต่าง ๆ ไปได้อย่างมั่นคง

วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เราอาจต้องเผชิญในปี 2566