ค่าเงินบาทอ่อนตัว

ภายหลังจากการประชุมเฟดเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์เงินไหลกลับ มีการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงจากทั่วโลก โดยเฉพาะเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี เพียงแค่ 24 ชั่วโมงหลังจากการประชุมของเฟด ก็มีการเทขายเหรียญคริปโตทุกเหรียญออกมาเป็นเงินมากถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ เหตุกังวลมาจากเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยสูงถึง 0.75% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.50% หลังจากที่มีการประกาศอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอยู่ที่ 8.3%

ไทยบาทอ่อน ลาวอาจถึงขั้นวิกฤต

สำหรับประเทศไทยค่าเงินบาทมีการปรับตัวอ่อนลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยมีการอ่อนค่าไปที่ระดับ 34 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการอ่อนค่าสูงสุดในรอบ 5 ปี ในขณะที่ค่าเงินอื่น ๆ ในแถบอาเซียนเองก็มีการปรับตัวอ่อนค่าลงด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะค่าเงินกีบจากประเทศลาว ที่หลายฝ่ายกังวลว่าอาจเกิดวิกฤตในลาวและตามรอยของศรีลังกาก็เป็นได้ โดยค่าเงินกีบเมื่อต้นปี อยู่ที่ 32,000 กีบ/100 บาท แต่ปัจจุบันมีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 42,000กีบ/100 บาท

ส่งผลให้ภายในประเทศเกิดวิกฤตพลังงาน เพราะไม่มีเงินทุนสำรองในประเทศมากพอที่จะซื้อน้ำมันได้ หลังจากในช่วงที่ผ่านมีราคาน้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้นมากซึ่งมีสาเหตุมาจากปัญหาการรบกันระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ประกอบกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐมีการแข็งค่าขึ้น ในขณะที่หลายฝ่ายมีการคาดการณ์ว่าส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ลาวกู้เงินจากจีนมาลงทุนรถไฟความเร็วสูง 100% ทำให้ขาดดุลทางการค้าและทิศทางของดอกเบี้ยที่กำลังจะกลายเป็นขาขึ้น เกรงว่าจะได้รับผลกระทบจนเกิดเป็นวิกฤตทางการเงินขึ้นได้

ผลกระทบต่อปัญหาค่าเงินบาทอ่อน

หากมองตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้วการที่ค่าเงินอ่อนตัวมักจะส่งผลดีต่อภาคส่งออก ที่สามารถขายสินค้าจำนวนมากได้ แต่ในส่วนของการนำเข้าสินค้าเข้ากลับได้รับผลกระทบ เพราะต้องซื้อสินค้าและวัตถุดิบในราคาแพงขึ้น ในขณะที่ค่าเงินอ่อนมาก ๆ ก็จะทำให้ขายสินค้าได้ในราคาถูกลง โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบเข้ามาผลิตและขายออกต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดการขาดดุลทางการค้า ประชาชนก็จะได้ซื้อสินค้าราคาแพง ในส่วนของบริษัทที่มีหนี้เป็นเงินดอลลาร์ก็จะพบปัญหาในเรื่องของการชำระหนี้คืนหากไม่มีการทำประกันความเสี่ยงเรื่องค่าเงินไว้ เช่น ตอนกู้ กู้มา 1 ล้าน USD คิดเป็นเงินไทย 32,000,000 บาท แต่เมื่อถึงเวลาใช้คืนต้องใช้คืนมากถึง 34,000,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะเพิ่มขึ้นในเร็ววันนี้

แม้โดยภาพรวมค่าเงินบาทที่มาแตะระดับ 34 บาทต่อดอลล่าร์ได้นั้นจะไม่น่ากังวลเท่าใด แต่เราก็ไม่ควรประมาทในการใช้เงิน เพราะปัจจุบันสินค้าต่าง ๆ ในท้องตลาดมีราคาที่ปรับตัวขึ้นสูงมาก ทำให้หลายครอบครัวได้รับผลกระทบ คงต้องรอดูต่อไปว่าทิศทางของค่าเงิน อัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อจะเป็นเช่นไร ได้แต่ภาวนาให้สงครามรัสเซียและยูเครนสามารถเจรจาและจบลงโดยเร็ว อย่างน้อยก็พอช่วยให้คลายวิกฤตราคาน้ำมันแพงในขณะนี้ได้

เงินเฟ้อเป็นเหตุ ค่าเงินอาเซียนอ่อนยวบ เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย